วันนี้อยากจะพูดเกี่ยวกับรอยสักของพี่เคียว...ซึ่งเคยมีฝรั่งตั้งข้อสังเกตไว้เป็นข้อๆเกี่ยวกับรอยสักของพี่เคียวเชียวนะเออ!! ตอนแรกเรามองผ่านๆไม่เคยคิดอะไร คิดเพียงแค่ว่ามันคือศิลปะบนเรือนร่างเท่านั้น เราเองก็มีรอยสัก เคยเอามาลงบล็อค (ของเรามันก็แค่ตัวอักษรบนเรือนร่าง 55+) ไม่ใช่ภาพวาดแบบพี่เคียว พี่คาโอ้ หรือพี่ได =A= หลังจากที่แปลบทสัมภาษณ์พี่เคียวแบบลวกมากๆแล้ว พี่เคียวก็ยังยืนยันคำตอบเดิมว่า มันก็แค่รอยสัก ไม่ได้มีความหมายลึกซึ้งอะไร...แค่เขาคิดว่าภาพมันสวยดี ถ้ามาเป็นรอยสักคงจะสวย ก็เลยสัก...รอยสักแรกของพี่เคียวที่จำได้ครั้งแรกที่เห็นคือ ผีเสื้อแสนสวย ตอนแรกมีแค่เจ้าตัวนั้นตัวเดียว หลังจากนั้นไม่นาน (หรือนานวะ)...ผ่านเหตุการณ์สะเทือนใจในชีวิตมากมาย (เรื่องหูดับ) ก็รู้สึกได้ถึงรอยสักที่เพิ่มมากขึ้น มากขึ้น...จนเป็นอย่างที่เห็นในทุกวัน
มาพูดถึงสิ่งที่เกริ่นตอนแรก
credit : http://screamingkannon.tumblr.com/post/27080045206
ผู้จุดประกายให้คิดต่อเกี่ยวกับรอยสักของพี่เคียว มองดูรูปชัดๆด้านล่างประกอบต่อเลยจะแปลคร่าวๆจากที่อ่านมานะ
ตรงต้นคอพี่เคียวเห็นป่ะ คิดว่ามันคืออะไร...มันคือช่องคลอด เย้ยย หรือมันอาจจะเป็นดวงตา...ณ จุดนี้ลงความเห็นตามเครดิตข้างต้นข้อแรกว่ามันเหมือนปากช่องคลอด ที่มี monster อยู่ภายในกำลังจะออกมา???? (โปรดขี่จักรยานในการรับชม ลอกข้อความจากเว็บดราม่ามา 555)
แต่....เส้นขีดล้อมรอบนั่นเหมือนขนตา ในกรณีที่พี่เคียวมีรอยสักของ Senju Kannon รวมอยู่ด้วย มันอาจจะเป็นตาที่สัมพันธ์ในทางพระพุทธศาสนา เห็นทุกอย่าง รู้ทุกอย่าง...แต่ไม่พูด ซึ่งตำแหน่งรอยสักที่ว่า อยู่ในตำแหน่ง Chakra จักระที่ 5 ซึ่งเกี่ยวข้องกับคอด้วย
จักราในความหมายภาษาไทยอ่านได้ที่
ยังมีข้อมูลยิบย่อยอีกมากมาย ถ้าอยากอ่านเพิ่มก็ลองหาใน google ต่อเองนะ ^^;
อันนี้อาจหาญแปลบทสัมภาษณ์พี่เคียว ก๊ากกก ก็อย่างที่บอกข้างต้นแปลแบบลวกมากๆ เอาน่ะ อ่านไปอย่าบ่น(ใครบ่น) ฮู้~ แล้วจะซูฮกผู้ชายคนนี้เพิ่มอีกเป็นกระบุง ยอมรับนับถือกับผู้ชายคนนี้เลย ถึงหูกุจะดับคอกุจะเดี้ยง แต่กุจะร้องเพลงต่อ กุไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตาหรอกเฟร้ย~ เอ้าา ไปอ่านนนน
ทำไมผู้คนถึงได้สักกัน?
สำหรับการสัมภาษณ์ในแต่ละครั้ง พวกเรายินดีต้อนรับกับผู้ที่มีรอยสัก ในสถานที่ซึ่งผ่อนคลายเพื่อทำการถ่ายภาพ และ Miyuki Matsuda จะเจาะลึกลงไปยังเบื้องหลังแรงจูงใจที่แท้จริงของรอยสัก
Matsuda : การถ่ายภาพเป็นยังไงบ้าง?
Kyo : เป็นอะไรที่น่าสนใจมาก ให้ความรู้สึกที่ปลดปล่อย
Matsuda : ช่างภาพบอกว่ามันเป็นเรื่องที่ผิดปกติมากเลยล่ะ พวกเขาว่างั้น (หัวเราะ)
Kyo : เป็นเรื่องผิดปกติอย่างแท้จริงเลยล่ะ (หัวเราะ) มันเป็นอะไรที่น่าสนใจมาก มันแตกต่างไปจากวันนี้ ผมไม่อยากจะเดามากว่ามันจะเป็นยังไง
Matsuda : คุณหมายถึงว่ามันจะยุ่งเหยิงใช่มั้ย? (หัวเราะ)
Kyo : นิตยสารจะไม่นำภาพออกมา ถ้าไม่ใช้ภาพพวกนั้น
Matsuda : รอยสักของคุณสวยมากจริงๆ ผมชอบลวดลายที่ละเอียดผมหลงใหลมันจริงๆ มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อคุณคิดที่จะสักมันครั้งแรก?
Kyo : เมื่อนานมาแล้วในระหว่างการแสดงสด ผมลืมไปแล้วจริงๆว่าเมื่อไรที่หูซ้ายของผมได้รับความเสียหาย ตั้งแต่นั้นมาผมก็ไม่สามารถที่จะได้ยินเสียงต่ำ จากผลที่ตามมานั้น ผมคิดว่า "ฉันต้องพยายามที่จะไม่มีคำว่าเสียใจก่อนที่ฉันจะตาย" "ฉันต้องการไปยังสถานที่อันตรายมากๆ" และหลังจากนั้นผมก็คิดได้ว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เปล่าประโยชน์ และนั่นคือเมื่อผมสัก
Matsuda : Dir en grey สร้างขึ้นจาก ‘bad guys’ และมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย มันกลายเป็นใคร่ครวญและความมืดมน คุณว่ามั้ย?
Kyo : โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่ผมไม่ชอบคือสิ่งสวยงาม หรือมุมมองของโลกที่ไม่เป็นจริง ถ้าหากให้ผมพูด ผมคงจะบอกว่าผมชอบสิ่งสกปรกและความน่ากลัว
Matsuda : มีสิ่งต่างๆมากมายหลากหลายชนิดของความกลัวอย่างนั้นใช่มั้ย?
Kyo : นั่นคือความจริง บางสิ่งในตัวเรา ความเจ็บปวด สภาพแวดล้อม
Matsuda : มันเป็นคำเปรียบเทียบสำหรับความเจ็บปวดในหัวใจ?
Kyo : มันง่ายที่จะพยายามสร้างรูปแบบโลกทัศน์ มันเหมือนคนไม่ได้ทำอะไรเลย และผมต้องการที่จะสร้างสิ่งเหล่านั้นใต้ดินและมากไปกว่านั้น ผมเจาะเลือดตัวเองบนเวที ทำในสิ่งที่รุนแรงอื่นๆ แต่เมื่อเร็วๆนี้ในความเป็นจริงและทางตรง ผมเริ่มที่จะแสดงออกได้ด้วยร่างกายและเสียง ผมคิดอย่างงั้น
Matsuda : คุณดึงดูแฟนๆอย่างไรให้ไปยังประเภทมุมมองนั้น
Kyo : ใน live น่ะ ส่วนที่สว่างสดใสไม่ใช่มุมมองที่จะแสดงให้เห็น แต่หลังจากภาพที่หน้าตื่นเต้นจบลง มีคนมากมายที่รู้สึกสดชื่น ผมคิดว่า ผมไม่ต้องการที่จะพูดอะไรกับใคร แต่เด็กๆเหล่านั้นเขาจะนำบางสิ่งมาให้ และไม่ว่าพวกเขาจะต้องการกรีดร้องหรือไม่กรีดร้อง พวกเขาเปลี่ยนที่นั่น หลังจากนั้นพวกเขาก็กลับมาเป็นปกติ แต่ก็เป็นธรรมชาติและความรู้สึกที่ดี ผมคิดว่างั้น
Matsuda : คุณกำลังพยายามทำบางสิ่งเพื่อช่วยแต่คุณไม่ได้รับอะไรกลับมา
Kyo : คุณอาจจะพูดว่ามันเป็นพื้นฐานทั่วไป มันมีไว้สำหรับตัวผมเองว่าผมร้อง ผมเขียนเพลง ผมทำสิ่งเหล่านั้นมาจากสถานที่ๆเป็นความพึงพอใจของผม นั่นคือสิ่งที่คุณสามารถสัมผัสมันได้ โปรดทำในสิ่งที่คุณชอบ สิ่งที่คุณรู้สึก
Matsuda : (แฟนๆ) ซื้อตั๋วของพวกเขา และจนกว่าพวกเขาจะไปยังสถานที่แสดง 'ฉันต้องการฟังเพลงพวกนั้น' นั่นคือสิ่งที่คุณทำให้พวกเขาคิด มันเป็นสิ่งที่น่าประหลาดใจ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่แฟนๆของคุณมี?
Kyo : ถ้าพวกเขามาด้วยความรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ มันเป็นสิ่งที่ดีนะ แม้ว่าพวกเขาจะทำตัวแบบนั้น ซึ่งนั่นเป็นความคิดที่มากเกินไปเสมอและความไม่สบายใจ แต่ผมต้องการให้พวกเขาทำอย่างแท้จริงให้ดีที่สุด ผมคิดว่า 'ฉันจะไม่คิดอะไรที่มากจนเกินไป ฉันจะทำในสิ่งที่ฉันชอบ' ถ้าคุณมองสิ่งนี้จากทัศนคติ มันไม่มีอะไรที่น่าสนใจเลย
Matsuda : ประเภทของมนุษย์ที่เป็น Kyo?
Kyo : มนุษย์ที่อ่อนแอ (หัวเราะ) ผมต้องการจะเป็นคนที่แข็งแกร่ง แต่มันยังไม่เกิดขึ้นกับผม ผมคิดว่ามนุษย์มีแนวโน้มที่จะไปในทางขี้ขลาด
Matsuda : หมายถึงความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด?
Kyo : เพราะผมกลัวว่าผมจะเป็นคนทรยศ ผมอายที่จะพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น กับใครที่ผมพูดด้วยไม่ได้ดลใจให้ผมไว้เนื้อเชื่อใจเขาเลย และมันเหมือนกับการก้าวเข้าไปในอาณาเขตของคนอื่น ผมจะทำร้ายความรู้สึกคนที่ผมพูดด้วยและเพราะว่ามันเป็นอย่างนั้น ผมไม่สามารถจะพูดตรงๆออกมาได้ นั่นล่ะที่ผมรู้สึก
Matsuda :สิ่งเหล่านั้นเหมือนกับรอยสักของคุณ? ตัวอย่างเช่น พันรอบความรู้สึกการปกป้องความกลัว?
Kyo : รอยสักของผมไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับความรู้สึกนั่นเลย ผมแค่ชอบมัน และทำมัน รอยสักของผมไม่ได้มีความหมายลึกซึ้งอะไร
'ฉันต้องการที่จะสัก ฉันจึงสัก' 'ฉันชอบรูปนี้ ฉันจะทำให้มันเป็นรอยสัก' นั่นคือทั้งหมดจริงๆ
Matsuda : และคุณไม่ต้องการที่จะลบพวกมันออก?
Kyo : ผมไม่ทำ ผมเป็นคนที่แปรปรวน แต่ไม่ได้มาถึงรอยสัก ในความคิดแง่ร้าย ความคิดที่เจ็บปวด ผมก็ยังคงสัก
Matsuda : Dir en grey ก่อตั้งขึ้นเมื่อไร?
Kyo : 13 ปีมาแล้ว
Matsuda : ระหว่าง 13 ปีที่ผ่านมา มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อะไรที่เป็นประสบการณ์ช่วยให้คุณเติบโตขึ้น?
Kyo : จริงๆมันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับหู ผมกล่าวก่อนหน้านั้น (สิ่งที่ช่วยให้ผมเติบโตขึ้น) 'จากนี้ไป ฉันจำเป็นต้องเข้าใจ โดยไม่ได้ใช้หูอีกข้าง' ผมไม่รู้ว่าผมจะสามารถดำเนินการต่อไปกับเพลงในสถานการณ์ปัจจุบันของผมได้ อย่างไรก็ตาม ‘ฉันจะไม่ยอมลาออกเพราะชะตากรรมนี้หรอก’ ผมคิด และในเวลานั้นเองที่ผมเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ของผม และประสิทธิภาพการทำงานของผม และผมโอบกอดภายในของผมแน่นและมันเป็นความแข็งกล้า นั่นคือสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
Matsuda : มันผ่านมานานเท่าไรแล้ว?
Kyo : ประมาณ 10 ปี หลังจากนั้นพวกเราอยากจะลองไปต่างประเทศ ที่นั่นมีวงดนตรีที่เยี่ยมมากมาย มันไม่ใช่การชนะ หรือแพ้ จากสถานการณ์นั้น นอกจากนี้ยังมีวงดนตรีเช่นนั้นในญี่ปุ่น แต่มีมากมายที่ต่างประเทศ
Matsuda : การตอบรับของแฟนๆจากต่างประเทศเป็นอย่างไร?
Kyo : มีแฟนๆจำนวนมากที่กระตือรือร้นกันอย่างสุดขีด เพราะว่าพวกเขาไม่มี mc คำเดียวที่มีในระหว่างโชว์คือบทเพลง ดังนั้นมีคนอีกจำนวนมากที่พยายามอย่างมากจะเข้าถึงบทเพลง
Matsuda : ดังนั้นความรู้สึกในญี่ปุ่นจึงแตกต่าง?
Kyo : สิ่งที่ผมทำไม่ได้แตกต่างออกไป แต่แฟนเพลงชาวญี่ปุ่นแตกต่างมาก อย่างเช่น ในช่วงที่เงียบ (ระหว่าง live) พวกเขาจะอ่านสถานการณ์ออกและจะเงียบสงบ แต่ต่างประเทศจะเสียงดังมาก ไม่ว่ามันจะเป็นความหมายที่ดีหรือไม่ดี ยังไงมันก็คือความรู้สึกที่ปลดปล่อย
Matsuda : สถานที่ไหนที่คุณไปมาบ้าง?
Kyo : America, Europe, Canada พวกเราไปหลายๆแห่ง แต่จริงๆแล้วผมไม่ชอบที่จะไปต่างประเทศนะ มันน่าเบื่อ (หัวเราะ)
Matsuda : อย่างนั้นเหรอ (หัวเราะ) ทำไม?
Kyo : พวกเราไม่ได้ทานข้าวร่วมกัน และผมพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ การสื่อสารเป็นปัญหา หลังจากไลฟ์ ไม่มีใครดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในขณะทัวร์ คอของผมก็มีปัญหา ผมจึงไม่ดื่ม ในขณะที่ทุกคนกำลังเอนตัวนอนและนั่นล่ะที่เสียงดังจริงๆ ผมนอนน่ะเงียบมากนะ (หัวเราะ)
Matsuda : ถ้าอย่างงั้น คุณสามารถผ่อนคลายได้อย่างแน่นอนที่ [Studio Coast]
Kyo : ใช่แล้ว นานมาแล้วที่พวกเราได้ผ่านโชว์มากมายที่นี่
Matsuda : ความเป็นส่วนตัวแบบไหนที่คุณชอบทำ?
Kyo : สิ่งที่ผ่อนคลายที่สุดอันดับหนึ่งคือ การไปดูหนังที่โรงหนัง และเดินเล่นในตอนกลางคืน ในระหว่างทัวร์ถ้าอยู่ในโรงแรมคนเดียวและผมรู้สึกหดหู่ ผมจะออกไปข้างนอก จริงๆแล้วผมไม่ใช่คนประเภทที่ชอบอยู่คนเดียว
Matsuda : นั่นคือความรู้สึกของมนุษย์ คุณคิดงั้นมั้ย? เป็นการแบ่งความรู้สึกที่เชื่อมต่อที่แสดงออกมา อย่างเช่นนักแสดง สิ่งที่นำเสนอออกมาก็คือทุกคำพูด พวกเขาอ่านสคลิปและในทางทฤษฎีเขาสร้างงานศิลปะออกมา คำพูดต่างๆมีความหมายสารพัด แต่สำหรับนักดนตรี คือจังหวะและเสียง และอื่นๆ
Kyo : วันนี้ ในระหว่างที่ผมถูกถ่ายภาพ ผมคิดว่ามันใกล้เคียงมากเมื่อผมเขียนเพลง ‘อา หยุดก่อน’ หรือ ‘อย่างงั้นล่ะ’ (ประโยคที่ช่างภาพใช้) ผมก็มีความรู้สึกที่ว่า 'กีต้าร์ไม่ใช่อย่างนั้น' หรือ 'ใช่ ความรู้สึกนี้ล่ะ'
Matsuda : และเดี๋ยวนี้คุณยังคงยืนอยู่บนเวที และเปลี่ยนไปอย่างสมบูรณ์แบบ นั่นเป็นสิ่งที่น่าประหลาดใจ ผมยังไม่เคยไปดูการแสดงของ Dir en grey เลย ผมจะไปได้มั้ย
Kyo : แน่นอน มาได้เลย
*-*-*
จะคิดอะไรแตกต่างกันไปก็ขึ้นอยู่ที่วิจารณญาณของแต่ละบุคคลนะ ส่วนเราคิดว่าที่พี่เคียวบอกว่าไม่ลึกซึ้งนี่คงไม่ใช่แล้วล่ะ มันต้องมีอะไรบ้างล่ะไม่มากก็น้อย อย่างน้อยที่สุดก็เสริมแรงใจให้สู้ต่อไปกับร่างกายของตัวเองที่ไม่เหมือนเดิม...สู้ต่อไปนะพี่เคียว มีอีกหลายคนรออยู่ ฮู้ว ฮู้
แปะรูปหนุ่มคนนี้ไว้ก่อน ถ้าดีวีดีใกล้ได้จะแคปภาพมาแบบกระจุยกระจายเลย กรี๊ด~
No comments:
Post a Comment