อยากพล่าม...

สองอาทิตย์ที่ผ่านมานี้มีโอกาสได้พบกับมิตรภาพใหม่ๆ และได้มีโอกาสรับฟังเรื่องราวมากมาย พอจะเข้าใจอย่างหนึ่งว่า...

ชีวิตจริงของพวกเรามันยิ่งกว่านิยาย โลกนี้ก็เหมือนละครโรงใหญ่ ทุกคนต่างรับบทบาทภาระหน้าที่ของตัวเองไป

แต่ถ้าใครเล่นนอกบทบาทของตัวเองเมื่อไร สิ่งที่จะได้กลับมาคืออะไร ความเจ็บปวด ความเศร้า หรือความทุกข์?

แต่ก็แปลกที่ใครบางคนเลือกที่จะเล่นนอกบท และดันทุรังตัวเอง เลือกที่จะเจ็บปวด...

เราเป็นห่วงคนที่อยู่รอบข้าง ก็อย่างที่บอก ไปห่วงคนที่ไม่มีทางจะเข้าใจหรอกว่าเราเป็นห่วง

คำพูดของเราไม่มีค่าเสมอเมื่อมันพูดออกไป ที่คิดแบบนี้เพราะอะไร เพราะทุกครั้งที่พูด หรือพล่ามอะไรมากมาย

นอกจากจะไม่ได้รับคำตอบกลับมาแล้ว ยังได้รับเพียงแค่คำตอบที่ไม่ใคร่จะใส่ใจ...ถ้าเป็นอย่างงั้น

สู้เราไม่เขียนอะไรออกไปเลยมันอาจจะดีซะกว่า ขอเก็บความห่วงใย และความคิดในแง่ลบแบบนี้ต่อไป

ให้มันตายอยู่ที่เราคนเดียวจะดีซะกว่า...

....

คนที่เหมือนจะไม่ใส่ใจเรามาตลอด...กลับเป็นคนที่ใส่ใจเรามากกว่าทุกๆคน

แต่คนที่เหมือนใส่ใจและแคร์เรา...กลับเป็นคนที่ไม่เข้าใจอะไรเราเลย

ไม่อยากจะคิดเข้าข้างตัวเองอีกแล้วสิ ทุกครั้งที่มีเรื่องหนักใจ หรืออยากพูดอะไรออก

เหมือนเค้าไม่พร้อมที่จะฟังเราเลย คงคิดว่าเราก็แค่พวกประสาทชอบพล่าม

บางครั้งไม่ต้องฟังจนครบหรือหมดประโยคก็ได้ แึ้ค่บอกเราว่าจะเป็นกำลังใจให้นะ

ไม่ว่าเธอจะกำลังพยายามทำอะไรอยู่ เราจะเป็นกำลังใจให้ทุกอย่าง

ถึงแม้สิ่งที่เธอพูด วันพรุ่งนี้เธอจะลืมมันไป แต่อย่างน้อยวินาทีนั้นมันก็สร้างกำลังใจ

ให้กับคนๆหนึ่งมากมายเลยล่ะ...


ขอบคุณที่ทำให้ได้รู้อะไรมากขึ้น และเข้าใจว่าตัวเองควรจะวางตัวเองแบบไหน

บนโลกที่เหมือนละคร...

No comments: