Can't Explain

พักนี้อัพบล็อคแต่ความรู้สึกไร้สาระของตัวเอง cd ที่ซื้อไว้ก็ไม่มีแม้แต่อารมณ์จะอัพ

งั้นก็คงไม่อัพ (แล้วจะบอกเพื่อ? 555) เอ่อ...คนเราน่ะ บางคนเวลามีเรื่องทุกข์ใจ

ก็อยากที่จะระบายใช่ป่ะ บางทีถ้ามีใครได้รับฟังมันก็จะรู้สึกเหมือนว่า...

เราไม่ได้เผชิญเรื่องนั้นอยู่คนเดียว...

แต่ถ้ามันเป็นเรื่องที่ไม่สามารถบอกใครได้เลยล่ะ...

....หลายๆคนก็คงจะตั้งคำถามต่อไปอีกสินะ ทำไมถึงบอกไม่ได้??

ก็จะให้บอกออกไปได้ยังไง ในเมื่อไม่มีใครอยู่...และจะรับฟังสิ่งเหล่านั้น

....ในโทรศัพท์ฉัน มีเบอร์โทรคนสนิทไม่ถึง 10 คนด้วยซ้ำ

ฉันไม่กล้าจะกดโทรไปหาเขาเหล่านั้น ในเวลาที่ดึกสงัดแบบนี้

คงทำไม่ได้หรอก และฉันก็จะไม่มีวันทำมันเด็ดขาด

เกลียดความรู้สึกในตอนนี้จริงๆ...



ไหนจะสิ่งที่หวัง สิ่งที่ตั้งใจ ตลอด 7 ปีที่ฉันพยายามตั้งใจทำมันมาโดยตลอด

บางทีฉันก็อยากจะยอมแพ้นะ มันเหนื่อย และก็ล้าเต็มทน

เกิดเป็นคนได้ทั้งที ทำไมความพยายามฉันมันน้อยอย่างงี้กันนะ

มันน่าสมเพศ และน่าอายเกินกว่าที่ฉันจะคุยกับใครได้จริงๆ

เพราะฉันละอายแก่ใจเกินกว่าจะบอกคนเหล่านั้นว่า

ฉันคงไปไม่ไหวแล้วจริงๆ...

ความเหนื่อยล้าในใจของฉัน สิ่งรอบข้างที่ทำให้ฉันกลับลงสู่ความมืด



แล้ว...ฉันยังจะให้กำลังใจคนที่มีความหวัง และมีความฝันได้อีกยังไง

ฉันจะยืดอกอย่างภาคภูมิใจ และบอกเค้าเหมือนอย่างเดิมว่าให้เดินหน้าต่อไปนะ

ดูอย่างฉันสิ...ฉันเคยภูมิใจกับความพยายามของตัวเองมาโดยตลอด

แต่วันนี้สิ่งเหล่านั้นมันเหมือนจะหาย และถูกกลืนกินไปทุกๆนาที

กับความฝัน สิ่งที่หวัง ทุกอย่าง...ฉันควรจะกลับไปอยู่กับตัวเองเหมือนเดิมสินะ

กลับไปอยู่ในที่ๆไม่มีใครรู้จักฉัน และอยู่ในโลกที่ไม่มีใครเคยเข้าถึง



"กูไม่มีฝันหรอก" คำพูดจากคนๆหนึ่งที่ฉันเคยรู้จัก

"ทำไม" ฉันถามเค้าแบบไม่คิดอะไรมาก เพราะฉันไม่หวังจะได้คำตอบจากคนที่ใช้ชีวิตไปวันๆ

"..." และฉันก็ไม่ได้รับคำตอบจากเค้าเลย

แต่รู้หรือเปล่า...ทุกวันนี้ คนที่เคยบอกกับฉันว่าไม่มีฝัน เค้ากลับสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่

และได้ทำในสิ่งที่เค้ารักจริงๆ...

และสิ่งที่เค้ากลับมาบอกกับฉันในวันนี้

"มันก็เหมือนฝันของคนไม่มีฝันอย่างกูไง" เค้าบอกไปในขณะที่ยืดอกอย่างภาคภูมิ

ฉันก้มลงมองดูตัวเองอย่างรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ...มัน...จุกอกจนพูดไม่ออก

เพราะฉันเคยภูมิใจกับความฝัน และความพยายามของฉันมาโดยตลอด

ทำไมมันถึงได้ต่างกับคนๆนั้นอย่างสิ้นเชิง คนที่มุ่งไปข้างหน้าโดยที่ไม่รู้หรอก

ว่าสิ่งที่เค้ารัก มันก็คือสิ่งที่เค้าฝัน...

มันคงจะต่างกันสินะ

ความรักที่จะทำในสิ่งที่ตัวเองฝัน

ความฝันที่อยากจะทำในสิ่งที่ตัวเองรัก

ฝัน...แต่ไม่ลงมือทำ ฉันอาจจะจัดอยู่ในประเภทนั้นก็ได้ เป็นแค่นักฝันที่ดี


เหนื่อย...คงต้องหยุดพัก เพื่อทบทวนตัวเองใหม่

คนเรามักกลัวอย่างงี้เสมอสินะ กับการจะวิ่งตามและคว้าอะไรสักอย่างไว้

และถ้าวันพรุ่งนี้ ความคิดแย่ๆยังรุมเร้าฉันเหมือนเดิม ฉันควรจะทำยังไง...

No comments: